Blue Temple วัดร่องเสือเต้น เชียงราย

วัดร่องเสือเต้น ทิพยสถานน้ำเงินฟ้า หนึ่งในพุทธศาสนสถานสำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงราย แหล่งท่องเที่ยวแห่งศรัทธาที่มีชื่อเสียง มีเอกลักษณ์ ความงดงามโดดเด่นในเรื่องสถาปัตยกรรม อันเกิดจากการสร้างสรรค์โดย นายพุทธา กาบแก้ว หรือ สล่านก ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ที่ครั้งหนึ่งตนได้รับโอกาสเข้าไปเป็นลูกศิษย์ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ในการสร้างวัดร่องขุ่น จนมีโอกาสได้มาสร้างวิหารวัดร่องเสือเต้นจึงได้นำวิชาที่ร่ำเรียนมารังสรรค์ความงดงามให้เกิดขึ้นที่วัดแห่งนี้ ด้วยสีสันที่สวยงามดึงดูดใจเหล่านักท่องเที่ยวให้แวะมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย


วัดร่องเสือเต้น ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านร่องเสือเต้น ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ในอดีตสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของวัดร้างโดยจะพบเห็นเศษซากอิฐโบราณสถานในวัดแห่งนี้เป็นจำนวนมาก เมื่อราวเกือบร้อยปีก่อนบริเวณนี้ยังไม่มีบ้านเรือนและผู้คนอาศัยอยู่มากนักจึงมีสัตว์ป่าจำนวนมากโดยเฉพาะเสือ ชาวบ้านที่เดินทางผ่านแถวนั้นมักจะเห็นเสือกระโดดข้ามร่องน้ำไปมาตรงจุดนี้ จึงเรียกต่อๆ กันมาว่า ร่องเสือเต้น รวมทั้งได้เรียกหมู่บ้านใกล้เคียงบริเวณนี้ว่า บ้านร่องเสือเต้น อีกด้วย


จุดไฮไลท์ของวัดแห่งนี้อยู่ที่ วิหารร่องเสือเต้น วิหารที่มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำ เพราะใช้โทนสีน้ำเงินฟ้าตัดกับสีทองเพิ่มความโดดเด่น โดยสีน้ำเงินฟ้าของตัววิหารนั้นแสดงถึงธรรมะของค์สมเด็จพระพุทธเจ้าที่ขจรขจายไปทั่วโลก ซึ่งเป็นหลักคำสอนที่เป็นความจริงตามหลักเหตุและผลเปรียบเสมือนดังท้องฟ้าที่สดใส เป็นศิลปแนวพุทธศิลป์ร่วมสมัยที่แฝงด้วยธรรมของพุทธองค์ แสดงถึงการชักนำชาวพุทธให้หันกลับมาเข้าวัด และศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ภายในตัววิหารนั้น เมื่อเข้ามาจะพบภาพจิตรกรรมฝาผนังสวยงสมอลังการอยู่รอบทั่วภายใน เป็นภาพวิจิตรที่เกี่ยวข้องกับพุทธประวัติต่างๆ ลายเส้นของตัวภาพมีความอ่อนช้อยสวยงามตามแบบฉบับของศิลปินที่วาด และอีกหนึ่งที่งดงามอย่างยิ่งนั่นคือ พระประธานที่ชื่อว่า พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ พระประธานสิงห์หนึ่งสีขาวมุก ขนาดหน้าตักกว้าง 5 เมตร สูง 6.5 เมตร โดยมีพระรอดลำพูน จำนวน 88,000 องค์ และแก้วแหวนเงินทองหลายสิ่งถูกฝังอยู่ใต้พระพุทธรูปองค์นี้ รวมทั้งบริเวณพระเศียรก็ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้รับพระราชทานจาก สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก รวมทั้งยังได้รับพระราชทานนามพระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ ที่หมายความว่า “พระพุทธเจ้าทรงเป็นมงคล เจ้าในความเป็นราชา เป็นที่พึ่งในสามโลก” ซึ่งทำให้ใครหลายคนต่างพากันมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิตให้กับตัวเองอีกด้วย

 

ส่วนข้างหน้าพระวิหารจะมีพญานาคตัวใหญ่ 2 ตัวอยู่คู่กัน ซึ่งเป็นศิลปะที่ช่างสล่านกได้นำเอารูปแบบผลงานของ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ ผู้สร้างบ้านดำจังหวัดเชียงรายนำมาประยุกต์ โดยเฉพาะอวัยวะส่วนที่เป็นฟันพญานาค จะเห็นได้ว่ามีความโค้งงอสวยงามและมีความแหลมคม พญานาคที่นี่จึงดูมีความสวยงามพลิ้วไหวและน่าเกรงขามไปในตัว เดินอ้อมไปด้านหลังวิหารจะพบกับพระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่โดดเด่น เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติประดิษฐานอยู่ สูงเทียบเท่ากับวิหารตัดกับสีน้ำเงินฟ้าสลับทองทำให้ดูสวยงามยิ่ง เป็นอีกหนึ่งความงดงามของฝีมือช่างสล่านก เยื้องไปไม่ไกลนักจะเห็น พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์ ความสูง 20 เมตร โดยยอดขององค์พระธาตุได้บรรจุพระบรมสาริกธาตุ จากสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสงฆปรินายก เป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดกับการมาสักการะพระธาตุแห่งนี้

 

 

ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคเหนือ